มาต่อกันในอีพีนี้กับที่ KUBET จะมารีวิวฉาก GAME OVER สุดหลอนต่อเนื่อง จาก EP.1 ที่ได้มีการพูดถึงเกม Waxworks (1992) เป็นเกมกราฟิก 8 บิต แต่ทำภาพออกมาได้น่ากลัว สื่อถึงใจคนเล่นเกมที่ชอบแนวนี้ได้เป็นอย่างดี
เดินทางมาได้ครึ่งทางแล้วกับการรีวิวเกมที่มีฉาก GAME OVER หลอนๆ ในอีพีนี้เราจะมารีวิวอีก 10 เกมตอนจบสุดหลอนกันต่อ!
1.spooky Jump scare mansion (2014)
เกมสยองอินดี้สุดเรียบง่าย ทั้งสไตล์กราฟิกและเกมการเล่น แต่ว่าอุปสรรคที่ผู้เล่นจะได้พบ อาจไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คิด
ต้องฟันฝ่าหาทางเอาตัวรอดในปราสาทของผีสปุกกี้ที่มีถึง 1,000 ห้อง และต้องเผชิญหน้ากับเหล่าสัตว์ประหลาดชี้เป็นชี้ตายของผู้เล่น
จุดเด่นฉาก GAME OVER ทำออกมาได้หลอนติดตาสุดๆ ภาพสุดกระอักกระอ่วนแทรกขึ้นมาเป็นระยะ
พร้อมกับข้อความคำพูดของเหล่าสัตว์ประหลาดที่ปลิดชีพผู้เล่น
2.Fear and Hunger (2018)
เกมสยองลงดันเจี้ยน เป็นเกมการเล่นที่ไม่ปรานีใครเต็มด้วยเนื้อหาและภาพเสียง ที่ไม่น่าอภิรมย์แม้กราฟิก สไตล์งานอาร์ท ในเกมก็มีรายละเอียดที่มีเอกลักษณ์ รูปภาพจะเป็นพิกเซลผสมกับภาพวาด
ผู้สร้างสามารถรังสรรค์เกมออกมาได้ชนิดที่ว่า ผู้เล่นอยากล้างตา ล้างความทรงจำกับสิ่งที่ได้เห็นในเกมเลยทีเดียว หนึ่งในนั้นก็คือ
ฉาก GAME OVER ที่ไม่มีปาฏิหาริย์ ไม่สามารถแก้เกมใดๆ จะเจอกับอดีตอัศวินที่ถูกทรมานจนกลายเป็นคนโรคจิต
ซึ่งถ้าเราหลงกลให้เขาจับตัวเราไป เขาจะจับเรามายังห้องเชือดที่ค่อยๆ เฉือนเนื้อของเราทีละชิ้น
3.Dead Space 2 (2011)
KUBET แอบเสียดายที่ยอดขายของภาครีเมคไม่ค่อยปัง เราเลยอาจจะไม่ค่อยมีโอกาสเห็นภาค 2 รีเมคอีก แต่นี่คือภาคต่อที่อัพเกรดขึ้นมาเยอะมาก ความสนุกที่มีมากขึ้น ฉากแอ็คชั่นชวนตื่นตาตื่นใจ และความโหดความสยองที่มากขึ้น
ฉาก GAME OVER คือฉากที่ไอแซคต้องทำการสแกนม่านตา ผ่านเครื่อง NDM ซึ่งผู้เล่นจะต้องบังคับเลเซอร์ที่ใช้สแกนให้ตรงตำแหน่งของม่านตาของไอแซค ถ้าผู้เล่นบังคับพลาด เลเซอร์ที่มีเหล็กแหลมก็จะลงมาใกล้ม่านตาเรื่อยๆ จนแทงตาของไอแซคในที่สุด
4.System Shock (1994)
เกมที่เรารับบทเป็นแฮกเกอร์ และได้ทำการแฮกข้อมูลของบริษัทเอกชนที่มีอำนาจที่สุด ซึ่งไม่นานก็ถูกจับได้ทำให้ทางการยื่นข้อเสนอให้ลบล้างคดีโดยการให้ทำงานเก็บกวาดสถานีซิทาเดล มันเป็นสถานีวิจัยนอกโลกที่ถูก AI ควบคุมทุกสิ่งรวมถึงมนุษย์ด้วย
ซึ่งที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอสุรกายสุดอันตราย ที่มาจากการถูก AI ควบคุมร่างกาย และจิตใจ ถ้าเขาพลาดท่าก็จะต้องลงเอยในแบบเดียวกัน
เกิดเป็นฉาก GAME OVER ในตำนาน แม้มันจะมีอยู่แค่แบบเดียวแต่ก็สร้างความหลอนได้
เมื่อแฮกเกอร์ถูก AI ชุบชีวิต แต่เขาจะไม่มีโอกาสได้พบกับชีวิตหลังความตาย และจะต้องกลายเป็นทาสของ AI ไปตลอดกาล
5.Phantasmagoria (1995)
เกมแนว interactive Movie ในสมัยนั้นช่วงที่ฮาร์ดแวร์ยังจำกัดไม่มีลูกเล่นขนาดนี้ สมัยนั้นจะเอาคนจริงๆ มาแสดงโดยมีพื้นหลังเป็น CG
ในเกม interactive Movie ที่ลงทุนสร้างแบบจัดเต็มโดยโปรดักชั่นจากทีมงานฮอลลีวูด
ฉาก GAME OVER โดนปีศาจฉีกหน้าแหกแต่เกมนี้จัดเต็มให้เราเห็นแบบใกล้ๆ ทุกรายละเอียด
6.Ao Oni (2008)
เกมฟรีแวร์หนีเจ้าปีศาจสีม่วงสุดหลอนจากญี่ปุ่น เกมการเล่นกับพล็อตเรื่องที่เรียบง่าย แต่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนมันถูกเอาไปดัดแปลงเป็นหนัง มังงะเป็นที่เรียบร้อย
เรื่องราวในเกมจะเกี่ยวกับกลุ่มเด็กนักเรียนพากันไปสำรวจคฤหาสน์ร้างแห่งหนึ่ง
ซึ่งที่แห่งนี้มี สัตว์ประหลาดตาแป๋วหน้านิ่ง ตัวสีม่วงเดินผ่านไปมาและคอยตามล่าพวกเขา
โดยรวมเกมนี้ดูเผินๆ ไม่ได้น่ากลัวอะไรแต่พอลองเล่นเองก็ลุ้นระทึกใช้ได้เลย
7.The callisto protocol (2022)
จะมีฉาก GAME OVER ที่ไหนต้องจ่ายเงิน เพื่อดูความล้มเหลวของตัวเองบ้าง บอกได้เลยว่าคงเป็นไปได้ยาก แต่คงไม่ใช่สำหรับเกมนี้
ในมีความหลากหลายโหดร้ายแถมมี DLC ฉากตายใหม่ๆ หลากหลายขึ้น
เชื่อว่าผู้เล่นไม่น่าจะเรียกร้องอะไรแบบนี้ก็หรอกแต่ในเมื่อเขาอุตส่าห์ลงทุนทำให้ดูขนาดนี้
ก็พยายามเพลิดเพลินไปกับมันก็แล้วกัน ซึ่งก็ทำออกมาดูสะเทือนใจใช้ได้ โหดในระดับที่กราฟิกทำได้ออกมาดูสมจริงมากเกินไปด้วยซ้ำ
ใครเบื่ออยากหาเกมสนุกๆ เล่นสามารถสมัครสมาชิกกับ KUBETได้เลย มีเกมให้เล่นหลากหลายแนว ถ้าใครอยากรู้ว่ามีเกมอะไรที่น่าเล่นบ้าง สมัครเลย!
8.Robinson’s requiem (1994)
แนวเกมเอาตัวรอดบนดาวเคราะห์ประหลาดในยุคช่วง 2163 เป็นช่วงที่ประชากรเริ่มล้นโลก จึงมีการออกสำรวจดาวเคราะห์ แต่ยานของเขาดันขัดข้องตกไปยังดาวสุดอันตรายทั้งจากเหล่าสัตว์ร้าย สภาพแวดล้อมและผู้รอดชีวิตคนอื่นที่คิด
ฉาก GAME OVER ตามสไตล์เกมเอาตัวรอด เราสามารถหิว กระหาย บาดเจ็บ และติดเชื้อได้
บางทีเนี่ยมันสามารถรุนแรงถึงขั้นต้องตัด แขนขาเลยไม่งั้นตายเป็นชะตากรรมของตัวเอก
ฉากตายวายชีวะของเขาตอกย้ำชะตากรรมของเขาได้เป็นอย่างดี ภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยเปลวไฟไหม้วอดประดุจดั่งเขากำลังดำ ดิ่งสู่นรกอเวจี พร้อมกับมีเพลงประกอบชวนหลอนปนเศร้าขึ้นมาด้วย
9.Gretel and Hansel (2009-2010)
เรื่องราวของ 2 พี่น้องในครอบครัวยากจนอาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงใจร้าย วันหนึ่งเกรเทลได้ยินแม่เลี้ยงบอกถึงแผนร้ายในการนำทั้งคู่ไปปล่อยป่าลึก
เพื่อจะลดค่าใช้จ่ายในบ้าน 2 พี่น้องจึงต้องเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นให้พร้อม ถ้าทำพลาดขึ้นมาก็จะมีฉาก GAME OVER ที่ชวนหดหู่กันเลยทีเดียว
10.FallOut (1997)
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะเข้าไปอยู่ในที่ที่มีแต่อันตรายทุกย่างก้าว ทั้งพวกโจร สัตว์กลายพันธุ์ มนุษย์กลายพันธุ์ สารรังสี พบเจออะไรเหล่านี้ และต้องมีความพร้อมระดับหนึ่งในการจะรับมือ
โดยเฉพาะกับเกมภาคแรกปฐมบทที่ให้ผู้เล่นได้ลิ้มรสความโหดร้ายทั้งเกมเพลย์ ทั้งโลกในเกมเล่นแบบ Turn Based Classic RPG
ที่ไม่ค่อยปรานีแบบนี้ และแน่นอนว่ามันมีโอกาสสูงที่ผู้เล่นจะได้เห็นจุดจบของตัวเอก แม้ว่ามันจะไม่ได้หวือหวาแต่ก็ทรงพลังมาก
จบไปแล้วกับ 10 เกมที่มีจุดจบสุดหลอน ใน EP.3
จะเป็น 10 เกมสุดท้ายที่เราคัดมาให้เน้นๆ ไปตามกันได้เลย!
KUBET – คอลเลกชันเกมที่ครอบคลุม มีบทวิจารณ์เกมและกลยุทธ์มากมายที่นี่ รวมถึงเกม PC, เกม Xbox, เกมมือถือ, เกม PS4, เกม Steam ฯลฯ เกมต่าง ๆ กำลังรอคุณอยู่!